Stoned Love - เมารัก ค่อยๆรักกันเบาเบา - นิยาย Stoned Love - เมารัก ค่อยๆรักกันเบาเบา : Dek-D.com - Writer
×

    Stoned Love - เมารัก ค่อยๆรักกันเบาเบา

    ปั๊ป เด็กนักเรียนชายธรรมดาคนหนึ่งที่ได้เป็นนักเรียนใหม่ของโรงเรียนประจำ Prepson High สหรัฐอเมริกา นี้เป็นครั้งแรกที่ปั๊ปได้อยู่ห่างจากครอบครัวและที่นี้เป็นที่ๆปั๊ปอยากจะเริ่มต้นชีวิตบทใหม่ และแล้วเขาได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่งที่จะมาเติมเต็มชีวิตบทใหม่ของเขาแบ

    ผู้เข้าชมรวม

    114

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    6

    ผู้เข้าชมรวม


    114

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  ซึ้งกินใจ
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  17 ก.ย. 54 / 00:00 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

     นี้เป็นนิยายสดๆร้อนๆเรื่องแรกของเราและเราก็เป็นมือใหม่แบบเพิ่งแกะกล่อง *0* ติชมอะไรได้หมดเลยยยยยยยยนะค่ะ ^________^  ขอบคุณค่ะ<3

    แสงแดดยามเช้าลอดผ่านผ้าม้านมายังเตียงนอน แสงสีส้มส่องเข้ามาในห้องเต็มๆเหมือนเป็นสัณญาณเตือนว่าเช้าวันใหม่ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว เราดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดหน้า กลิ่นของน้ำยาปรับผ้านุ่มใต้ผ้าห่มและความเย็นภายในห้องชวนให้เราหลับต่อ โอ๊ยยยยยย บรรยากาศแบบนี้ช่างเป็นอะไรที่น่านอนต่อที่สุด เราดึงผ้าห่มลงมาที่คอและพลิกตัวไปด้านซ้าย ค่อยๆลืมตาและจ้องไปที่นาฬิกาปลุกสีขาวบนหัวเตียง

    เจ็ดโมงแล้วนี้หว่า เฮ้ย!

    สายยยยยยแล้ววววววววววววววว คือแบบวันนี้เป็นแค่วันแรกของโรงเรียนใหม่และเราก็สายแล้ว เรารีบหยิบเสื้อผ้าที่เตรียมไว้ตั้งแต่เมื่อคืนกับตะกร้าที่ใส่สารพัศของใช้อาบน้ำและวิ่งตรงไปยังห้องน้ำรวมที่ตั้งอยู่บนปีกขวาของตึกหอนักเรียนชาย โชคดีที่ห้องของเราอยู่ไม่ไกลจากห้องน้ำมากนักเราจึงใช้เวลาไม่มาก เราสงสารพวกที่ห้องนอนอยู่ไกลจากห้องน้ำ คือห้องพวกนั้นอยู่ไกลขนาดเราอาบน้ำเสร็จแล้ว พวกนั้นยังเดินมาไม่ถึงเลย จะว่าๆเราอาบน้ำเร็วเกินไปก็ได้เพราะผู้ชายก็ไม่ค่อยจะมีผมให้สระและก็ไม่เคยคิดจะเสียเวลามานั่งขัดขานวดหน้าเวลาอาบน้ำเหมือนผู้หญิงอยู่แล้ว   เมื่อถึงอ่างล้างหน้าเรารีบเปิดน้ำทันที น้ำเย็นๆไหลผ่านช่องว่างระหว่างนิ้วของเราช้าๆขัดกับความเร่งรีบของเรา เราล้างหน้าด้วยน้ำเย็นเหยือกโดยไม่ได้ใช้สบู่และแปลงฟันที่ดัดด้วยเหล็กกับยางหลากสีสันอย่างเร่งรีบ 

    ไม่น่า skype จนดึกเลย

    เราชื่อปั๊ป  อยู่เกรด 11 หรือ ม.5 อีกสามเดือนเราจะอายุ 17 เรามี พี่สาวหนึ่งคนและน้องชายหนึ่งคน รองเท้า converse สีดำคือรองเท้าคู่โปรดของเรา เราไม่ชอบคนโกหกชอบกินกาแฟและ The Beatles กับ The Smiths คือสองวงดนตรีที่เราจะไม่มีวันเลิกฟัง วันนี้เป็นวันแรกของเราในโรงเรียน Prepson High โรงเรียนชื่อดังใน คอนเนกติคัท สหรัฐอเมริกา Prepson High เป็นโรงเรียนที่เราใฝ่ฝันมาตลอดว่าจะได้มาเรียนและเป็นที่ๆเราหวังมาเสมอว่าจะได้มาเริ่มต้นชีวิตใหม่ ที่นี้คือที่ๆไม่มีใครรู้จักเราสักคนและเราเชื่อว่าชีวิตบทใหม่มันจะสนุกมากขึ้นถ้าไม่มีใครรู้อดีตและเบื้องหลังของเรา

    อาคารเรียนตั้งตระง่าอยู่ข้างๆสะนามฟุตบอลซึ่งก็ไกลจากหอพักนักเรียนชายไม่น้อย เรารีบวิ่งให้เร็วที่สุดเท่าทีจะทำได้และค่อยๆลดสปีดในการวิ่งเมื่อใกล้ถึงตัวอาคาร เรากางตะรางเรียนออกและมองดูวิชาแรกที่เรามีวันนี้ ตัวหนังสือภาษาอังกฤษพิมพ์ใหญ่อันแน่นอยู่ในกล่องสี่เหลี่ยมบล็อกแรก

    BIOLOGY11 Dr.Helen R101.ห้อง 101ก็ห้องนี้นิ ห้อง 101 คือห้องแรกของชั้นหนึ่ง เราจำได้แม่นจากตอนที่มาดูโรงเรียนนี้ใหม่ๆกับพ่อแม่เมื่อซัมเมอร์ปีที่แล้ว เราเป็นคนค่อนข้างละเอียดและชอบสังเกตทุกอย่าง แม่บอกว่าบางทีเราก็สังเกตมากเกินดีจนเรารู้มากไป เรามองดูนาฬิกา swatch สีส้มบนข้อมือขวา ตอนนี้เจ็ดโมงเก้านาที เก่งมากปั๊ปปปปป นายทำเวลาทันพอดี 

     Welcome everyone to Dr.Helen Biology class! This is the place where you can have fun and gain knowledge at the same time!  เราเข้าไปในห้องชีวะตอนที่ครูกำลังพูดอยู่หน้าห้องพอดี ทุกคนหันหน้ามามองเราแบบแปลกๆ  สายตาแต่ละคู่สื่อถึงคำพูดเลยก็ว่าได้และเหมือนกับว่าคนเหล่านั้นกำลังคิดในใจว่า Who the hell is this Asian guy? ในห้องเต็มไปด้วยฝรั่ง เราพยายามมองหาคนเอเชียเผื่อเราจะได้รู้สึกดีขึ้นที่มีเพื่อนผิวสีเหลืองร่วมทวีปมาเรียนนี้ห้องเดียวกัน เรากวาดตามองไปรอบๆ อ่า นั้นไง ผู้หญิงเอเชียที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะหลังสุด ห้องชีวะมีโต๊ะยาวๆอยู่หกโต๊ะ โต๊ะนั้นยื่นออกมาจากพนังห้องสองด้านและแต่ละโต๊ะนั้นมีเก้าอี้อยู่สี่ตัว เราหยิบเก้าอี้ตัวที่ว่างมานั่ง สมาชิกร่วมโต๊ะของเรามีผู้ชายฝรั่งผู้หญิงฝรั่งและเธอคนเอเชียคนนั้นนั่งอยู่และทั้งสามคนนั้นก็ไม่ได้ให้ความสนใจกับสมาชิกโต๊ะคนใหม่อย่างเราด้วยซ้ำไป เราไม่ได้แคร์อะไรที่คนพวกนั้นไม่ได้สนใจเราเพราะยังไงเราก็รู้สึกอุ่นใจแล้วที่มีคนเอเชียเรียนห้องนี้ด้วยกัน ไม่ว่าเธออาจจะเป็นคนญี่ปุ่น พม่า มาเลเซีย โอ๊ยยยยย เราอยากรู้เหลือเกิดเธอเป็นคนอะไร เราจึงรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่เรามีและหันหน้าไปหาเธอคนนั้น What nationality are you? เราถามเธอแบบกล้าๆกลัว เธอหันหน้ามามองและจ้องหน้าเราอยู่นานพอสมควรก่อนจะพูดประโยคๆนึงที่เราไม่เคยคาดคิดจะได้ยินในเช้าวันแรกในโรงเรียนใหม่

    กูหน้าเกาหลีมากขนาดนั้นเลยเหรอ ปั๊ป 

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น